
แบรนดอน พอล ไบรอัน วิลเลียมส์ (Brandon Paul Brian Williams) หรือ แบรนดอน วิลเลียมส์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย ของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ขณะนี้โดน สโมสรนอริช ซิตี้ ยืมตัวไปเสริมทัพ 1 ฤดูกาล เขาคือแข้งดาวรุ่งที่เกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน ปี 2000 ขณะนี้อายุ 21 ปี เขาคือเด็กหนุ่มที่เกิดและเติบโตมาจาก เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง และมีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลอย่างมาก
โดยปกติแล้วเด็กที่เกิดและเติบโตจากเมืองแมนเชสเตอร์ จะต้องเลือกว่าจะเชียร์ทีมดังทีมไหนระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่สำหรับ วิลเลียมส์ แล้วนั้น เขาตอบคำถามนี้ได้ไม่ยาก เพราะว่า ครอบครัวของเขาเป็นแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเหนียวแน่น ซึ่งถือได้ว่าเขาเป็นนักเตะใน ทัพปีศาจแดง ที่มี สายเลือดแมนเชสเตอร์ แท้ๆอยู่ในตัวเลยทีเดียว และเมื่อเขามีความใฝ่ฝันที่จะเดินเส้นทางสายลูกหนัง แน่นอนว่าครอบครัวของเขาก็ได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี

การเริ่มต้นเข้าสู่วงการฟุตบอลของ แบรนดอน วิลเลียมส์ ในอคาเดมี ปีศาจแดง
หลังจากที่ วิลเลียมส์ ได้ค้นพบความชื่นชอบ และมองเห็นพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลของตัวเขาเองแล้วนั้น เขาจึงมีความฝันว่าจะต้องเข้าฝึกใน อคาเดมีของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ได้ โดยเริ่มจากการฝึกซ้อมในโรงเรียนที่เขาเรียน และฝึกซ้อมในยามว่างเป็นประจำ จนได้ลงแข่งขันในระดับท้องถิ่น และโชคก็เข้าข้างเขา เพราะมีทีมสตาฟจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปชมการแข่งขัน และชื่นชอบในทักษะการเล่นฟุตบอลของ วิลเลียมส์ มาก จนทาบทามให้เขาไปเป็นเด็กฝึกใน อคาเดมีของสโมสร และเขาก็ตอบตกลงในทันที และสร้างความภูมิใจให้กับครอบครัวที่เป็นแฟน เรดเดวิล ของเขาอย่างมาก

เขาได้เริ่มเข้าฝึกในอคาเดมีของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2017 ด้วยวัย 17 ปี ตลอดเวลาการเป็นเด็กฝึก วิลเลียมส์ ได้ตั้งใจฝึกฝนและพยายามอย่างหนัก และ เนื่องจากมีการแข่งขันในอคาเดมีที่สูงมาก เขาจึงต้องใช้ความอดทนสูง และฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังต้องมีปฏิภาณไหวพริบที่ดี เพื่อโอกาสอันดีต่อไปในการเป็นเด็กฝึกในอคาเดมี
และความพยายามทั้งหมดของเขา ก็ได้ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้จริง ในระยะเวลาที่เขาไปเป็นเด็กฝึกได้ไม่นานนัก เนื่องจากเขาได้รับคัดเลือกให้ลงเล่นในทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของ ทัพปีศาจแดง ในฤดูกาล 2017-18 แทบจะทันที และเขาก็ได้รับโอกาส ให้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมตั้งแต่อายุ 18 ปี อีกด้วย และด้วยจุดเด่นของเขาที่สามารถ วิ่งได้เร็วสูง และมีความแข็งแกร่งในการบุกที่รุกคู่ต่อสู้อย่างหนักหน่วง ตลอดจนมีเกมรับที่ไม่กลัวใครและดุดันอย่างมาก ทำให้การเล่นของ วิลเลียมส์ เข้าตาทีมสตาฟของทีมชุดใหญ่ ซึ่งในขณะนั้นมี โอเล กุนนาร์ โซลชา เป็นผู้จัดการทีม

แบรนดอน วิลเลียมส์ กับการเลื่อนขั้นสู่ทีมชุดใหญ่ใน ทัพปีศาจแดง
ในปี 2019 ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงของ วิลเลียมส์ ในขณะที่เขาอายุได้ 18 ปี เขาได้รับการคัดเลือกให้ได้ร่วมเดินทางไปเป็น หนึ่งในนักเตะของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะไปแข่งขันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ สโมสรปารีสแซงต์-แฌร์แมง ในเดือนมีนาคม 2019 แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มีชื่อในเกมนัดนั้น
จนในวันที่ 25 กันยายน ปีนั้น เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก แต่ในฐานะตัวสำรองในศึก คาราบาว คัพ นัดที่แข่งขันกับ สโมสรโรชเดล และเอาชนะด้วยการยิงจุดโทษมาได้ด้วยสกอร์ 5-3 และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ จนสุดท้าย เขาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ในฐานะตัวจริงเป็นครั้งแรกเมื่อ วันที่ 3 เดือนตุลาคม ปี 2019 ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก ในนัดที่แข่งขันกับ สโมสรอาแซด อัลค์มาร์ และเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 4-0

(Back Row L-R: Andreas Pereira, Nemanja Matic, Axel Tuanzebe, Harry Maguire, James Garner, Sergio Romero. Front Row L-R: Mason Greenwood, Ashley Young, Juan Mata, Brandon Williams, Anthony Martial) lines up ahead of the UEFA Europa League group L match between Manchester United and AZ Alkmaar at Old Trafford on December 12, 2019 in Manchester, United Kingdom. (Photo by John Peters/Manchester United via Getty Images)
ต่อมาในวันที่ 17 ตุลาคม 2019 เมื่อเขาอายุ 19 ปีเต็ม เขาจึงได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพของสโมสร เป็นระยะเวลา 3 ปี จนถึงเดือนมิถุนายน ในปี 2022 จากนั้นในอีก 3 วันถัดไป เขาได้ลงเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรก กับสโมสรคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งแข่งขันในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ก็มีชื่อติดเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น
ด้วยฟอร์มการแข่งขันที่โดดเด่นของ วิลเลียมส์ ทำให้ โซลชา ไว้วางใจให้เขามักจะมีชื่อติดในหลายเกม และสามารถแย่งชิงพื้นที่ของ ตำแหน่งตัวจริงจาก ลุค ชอร์ และ แอชลีย์ ยัง ได้หลายต่อหลายเกม และนอกจากนี้เขายังเป็นที่รักของแฟนบอล จากฟอร์มการเล่นที่ดี และจากการเป็นเด็ก แมนเชสเตอร์ แท้ๆ อีกด้วย

ทำให้ในที่สุดวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายน ปี 2019 เขาได้ลงแข่งขันในฐานะ นักเตะตัวจริง ในศึก พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรก ในนัดที่พบกับ สโมสรไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ซึ่งเขาได้โชว์ฟอร์มจนครบเวลาการแข่งขัน 90 นาทีเต็ม ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งในเกมนี้ เขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ปีศาจแดง เอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 3-0 อีกด้วย ซึ่งเมื่อจบเกม วิลเลียมส์ ได้รับการโหวตจากแฟนบอลเรดเดวิลให้เป็น นักเตะยอดเยี่ยมประจำนัด อีกด้วย
จากนั้นได้ไม่นาน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2019 เขาก็สามารถทำประตูให้กับต้นสังกัดได้เป็นครั้งแรก ในศึก พรีเมียร์ลีก นัดที่แข่งขันกับ เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด และเสมอกันด้วยสกอร์ 3-3 จากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขา ทำให้กุนซือในขณะนั้นอย่าง โซลชา ถึงกับต้องปรับแผนใหม่ เพราะ เขากำลังจะซื้อตัวนักเตะในตำแหน่งแบ็คซ้าย เพื่อเขามาเสริม ทัพปีศาจแดง ให้แข็งแกร่ง แต่เมื่อได้เห็นการเล่นของ ดาวรุ่งวัย 19 อย่าง วิลเลียมส์ แล้ว โซลชา ถึงกับพับแผนการมองหาแบ็คซ้ายคนใหม่ลง และผลักดัน วิลเลียมส์ ขึ้นมาแทน

เขาได้รับความไว้ใจจาก โซลชา ให้ลงทำการแข่งขันเรื่อยมา ซึ่งเขาลงเล่นไปถึง 33 นัด และทำประตูได้ 1 ประตู จนกระทั่งในวันที่ 4 สิงหาคม ปี 2020 แบรนดอน วิลเลียมส์ ได้ทำการลงนามต่อสัญญาการเป็นนักเตะให้กับ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2024 พร้อมด้วยตัวเลือกเพิ่มเติมสัญญาได้อีก 1 ปี

จนกระทั่งตลอดฤดูกาล 2020-21 การเข้ามาเสริมทัพของ อเล็กซ์ เตลเลส ในตำแหน่งแบ็คซ้าย และการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมของ ลุค ชอร์ ทำให้ วิลเลียมส์ โดนลดบทบาทลง และไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัก จึงทำให้ต้นสังกัดตัดสินใจปล่อยตัว วิลเลียมส์ ให้กับ สโมสรนอริช ซิตี้ ไปเสริมทัพ ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 ฤดูกาล ซึ่งเริ่มต้นในฤดูกาลที่ 2021-22
แบรนดอน วิลเลียมส์ กับการย้ายไปยืมตัวยังรัง นกขมิ้นเหลืองอ่อน
ในฤดูกาล 2021-22 ในปัจจุบันนี้ แบรนดอน วิลเลียมส์ ได้ลงทำการแข่งขันให้กับ สโมสรนอริช ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัว โดยหนึ่งในนัดที่สร้างชื่อให้กับเขาเป็นที่รู้จักจากสื่อ และ ในโลกโซเชียล ก็คือ การแข่งขันในศึก พรีเมียร์ลีก นัดที่ นอริช ซิตี้ พบกับ เบรนท์ฟอร์ด ในวันที่ 5 มีนาคม ปี 2022

ซึ่งในนัดนั้น คริสเตียน อีริคเซ่น นักเตะของ เบรนท์ฟอร์ด ได้ลงเล่นเป็นนัดแรกให้กับต้นสังกัด ซึ่ง อีริคเซ่น เคยประสบปัญหาหัวใจหยุดเต้นในปี 2020 และเพิ่งได้รับโอกาสจาก เบรนท์ฟอร์ด ให้กลับมาลงสนามอีกครั้ง ซึ่งเกิดการปะทะกันระหว่าง วิลเลียมส์ และ อีริคเซ่น ในการแข่งขันทำให้ทั้งคู่ลงไปนอนกองกับพื้นสนาม จน วิลเลียมส์ เกิดอาการโมโหและฉุนเฉียวอย่างมากที่โดนทำฟาล์ว แต่เมื่อเขาหันมาเห็นว่า ผู้ที่ทำฟาล์วเขา คือ อีริคเซ่น เขาก็เปลี่ยนท่าทีจากโมโห กลายเป็นสวมกอด และช่วยพยุงให้ อีริคเซ่น ลุกขึ้น ก่อนหัวเราะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนจะแยกย้ายกันไปแข่งขันในเกมต่อ ซึ่งทำให้แฟนบอลทั่วโลก ชื่นชม วิลเลียมส์ อย่างมาก และทำให้เขาเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

แม้ ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน จะมีผลงานไม่ดีอย่างมาก จนอยู่ในลำดับสุดท้ายของตารางในขณะนี้ แต่ฟอร์มการเล่นของ วิลเลียมส์ ก็ไม่ตกต่ำตามลงไปด้วย ซึ่งเขาลงสนามให้กับต้นสังกัดยืมตัวไปแล้ว 27 เกมด้วยกัน ซึ่งในวันที่ 26 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา เขาได้กล่าวกับสื่อว่า เขาพร้อมที่จะกลับไปเล่นให้กับ ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างมาก โดยเขากล่าวว่า
“ ฤดูกาลหน้า สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด คือ การได้กลับไปทำหน้าที่และเล่นในตำแหน่ง แบ็คซ้าย ให้กับ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผมรัก มันคือสิ่งที่ผมมีความตั้งใจจะทำให้ได้อย่างแน่นอน ”
ฤดูกาลหน้าที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ แบรนดอน วิลเลียมส์ จะเป็นอย่างไร เขาจะเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่สามารถฉุด ทัพปีศาจแดง ขึ้นมาจากหลุมฝังได้ และกลับมาเฉิดฉายได้เช่นเดิมหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
