
ดูซาน วลาโฮวิช (Dusan Vlahovic) ดาวรุ่งหนุ่มอนาคตไกลวัย 22 ปี เขาเกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม ในปี 2000 เกิดและเติบโตที่ เมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ปัจจุบันเขาเล่นอยู่ในตำแหน่งกองหน้า เป็นนักเตะหน้าใหม่ผู้เป็นความหวังแห่ง ทัพม้าลายแห่งตูริน ที่ก่อนหน้านี้ค้าแข้งให้กับ สโมสรฟิออเรนติน่า ทีมอริที่เคยมีเรื่องขัดแย้งจากการฉกตัวนักเตะดาวรุ่ง มาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง วลาโฮวิช ย้ายมายัง ยูเวนตุส ในช่วงก่อนตลาดหน้าหนาว เดือนมกราคม 2022 จะหมดลง ในวันที่ 28 มกราคม ซึ่งตรงกับวันเกิดในวัย 22 ปี ของเขาพอดีอีกด้วย
ดูซาน วลาโฮวิช กับการเริ่มต้นค้าแข้งในทีมเยาวชน
ดูซาน วลาโฮวิช เริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้งในทีมเยาวชนของ โรงเรียนสอนฟุตบอลอัลติน่า เซมุน (Altina Zemun) ซึ่งในโรงเรียนแห่งนี้ เขามักจะต้องลงเล่นกับนักเตะที่อายุมากกว่าเขาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นการโชว์ศักยภาพของเขา ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วงการลูกหนังเลยทีเดียว
จากนั้น วลาโฮวิช ได้ย้ายไปยังทีมเยาวชนของ สโมสรโอเอฟเค เบลเกรด (OFK Beograd) เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพียงสามเดือนเท่านั้น ต่อด้วยการเข้าเป็นนักเตะในทีมเยาวชนของ เรด สตาร์ เบลเกรด (Red Star Beograd) สโมสรฟุตบอลอาชีพในเมืองเบลเกรด ที่เขาเกิดและเติบโต และเป็นสโมสรยอดนิยมมากที่สุดของ ประเทศเซอร์เบีย ในปี 2008 ซึ่ง วลาโฮวิช ได้มีโอกาสลงเล่นให้กับที่นี้เพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น

ก่อนที่ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2014 เขาได้ย้าย ไปยังสโมสร ปาร์ติซาน เบลเกรด (Partizan Beograd) สโมสรฟุตบอลอาชีพในเมืองเบลเกรดเช่นกัน และเป็นสโมสรที่อยู่ใน ลีกเซอร์เบียนซุปเปอร์ลีกา ลีกสูงสุดของประเทศเซอร์เบีย ซึ่งจากศักยภาพที่ยอดเยี่ยม และการพัฒนาฝีเท้าที่โดดเด่น ทำให้ในปี 2015 ซึ่งในขณะนั้น เขาอายุได้เพียง 15 ปี เขาได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพฉบับแรกกับที่นี่
ดูซาน วลาโฮวิช กับการค้าแข้งในทีมชุดใหญ่
หลังจากได้เซ็นสัญญากับ สโมสรปาร์ติซาน เบลเกรด หลังจากนั้นไม่นาน วลาโฮวิช ที่มีอายุในวัยเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น ก็ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมกับทีมชุดใหญ่ของสโมสร ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 ได้ลงแข่งขันในนัดแรกในศึก เซอร์เบียนซุปเปอร์ลีกา เกมในลีกสูงสุดของ เซอร์เบีย กับ สโมสรโอเอฟเค เบลเกรด สโมสรเก่าของเขาเอง ซึ่งในการลงเล่นในนัดแรกของ วลาโฮวิช เป็นการทำลายสถิติกลายเป็น ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ สโมสรปาร์ติซาน เบลเกรด อีกด้วย โดยต่อมาในศึก เอเทอร์นอล ดาร์บี้ แมตช์ นัดที่ต้องพบกับทีมอริอย่าง สโมสรเรด สตาร์ เบลเกรด ทีมเก่าของเขาอีกเช่นกัน เขาก็ได้ทำลายสถิติกลายเป็น นักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงแข่งขันในศึกเอเทอร์นอล ดาร์บี้ แมตช์ อีกเช่นเคย

ซึ่งประตูแรกในชีวิตอาชีพนักฟุตบอลอาชีพของ วลาโฮวิช เกิดขึ้นในเดือนเมษายน ปี 2016 ในนัดที่พบกับ สโมสรรัดนิก เซอร์ดูลิก้า ซึ่งนอกจากเป็นประตูแรกในชีวิตของเขาแล้ว ยังเป็นการสร้างสถิติกลายเป็น ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่สามารถทำประตูให้กับ สโมสรปาร์ติซาน เบลเกรด อีกด้วย ซึ่ง วลาโฮวิช ค้าแข้งให้กับ ถิ่นปาร์ติซาน เบลเกรด ทั้งหมด 27 นัด และทำประตูไปได้ 3 ประตู โดย วลาโฮวิช เริ่มเป็นที่สนใจของทีมยักษ์ใหญ่ อาทิ อาร์เซนอล , ยูเวนตุส เป็นต้น แต่เขาปฏิเสธกับทุกทีมไป
หลังจากนั้น ในวันเกิดอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ของ วลาโฮวิช ในปี 2018 เขาได้ตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลย้ายไปยัง สโมสรฟิออเรนติน่า สโมสรในลีก กัลโซ่ เซเรียอา ลีกสูงสุดของอิตาลี ด้วยการเซ็นสัญญา 5 ปี แต่เกิดปัญหาในเรื่องของการลงทะเบียน จึงทำให้เขาลงเล่นให้กับ ทัพม่วงมหากาฬ ได้จริงในช่วงเดือนกรกฎาคม 2018 โดยเขาได้ลงเล่นในตำแหน่ง กองหน้า และสวมเสื้อหมายเลข 28 ของทีม
จนกระทั่ง ในช่วงเดือนกันยายน 2018 ซึ่งเป็นฤดูกาล 2018-19 เขาได้ลงสนามเป็นครั้งแรกให้กับ ทีมวิโอล่า แต่ในนัดนั้นพ่ายแพ้ให้กับ ทีมยักษ์ใหญ่ประจำลีกอย่าง อินเตอร์ มิลาน ไป 1-2 ซึ่งในช่วงแรก เขายังไม่มีบทบาทกับทีมมากนัก และลงเล่นเป็นตัวสำรองให้กับทีม

จนกระทั่งในฤดูกาล 2019-20 เขามีบทบาทกับทีมมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถทำประตูแรกให้กับ สโมสรฟิออเรนติน่า ได้เป็นครั้งแรกในศึก โกปปา อิตาเลีย รอบที่ 3 นัดที่พบกับ สโมสรมอนซ่า 1912 และเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ทิ้งห่างถึง 5-1 โดยในฤดูกาลนี้ วลาโฮวิช ได้สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในหมู่แฟนบอลอิตาลีอย่างมาก โดยเขาลงเล่นไปทั้งหมด 34 นัดในทุกรายการ และสามารถทำประตูไปได้ 8 ประตู

ถัดมาในฤดูกาล 2020-21 เป็นปีที่ วลาโฮวิช ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวด้วยอายุเพียง 21 ปี โดยในฤดูกาลนี้ เขาได้ลงเล่นเป็นนักเตะตัวจริงให้กับ ทัพม่วงมหากาฬ อย่างจริงจัง โดยเขายังสามารถทำแฮตทริกได้เป็นครั้งแรกในชีวิตในศึก กัลโซ่ เซเรียอา นัดที่เจอกับ สโมสรเบเนเวนโต้ กัลโซ่ ด้วยสกอร์ 4-1 และเป็นฤดูกาลที่เขาได้สร้างสถิติไว้อย่างมากมาย โดยลงเล่นในฤดูกาลนี้ทั้งหมด 37 นัด และทำประตูไปได้ถึง 21 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ สร้างโอกาสในการเกิดประตูไปถึง 15 ครั้ง มีโอกาสยิงทำประตูทั้งหมด 73 ครั้งเลยทีเดียว ซึ่งทำให้เขาสามารถคว้ารางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของศึก กัลป์โซ่ เซเรียอา ประจำฤดูกาล 2020-21 มาครองได้อย่างไม่มีข้อกังขา และทำให้เขาเป็นที่รู้จัก และฉายแววดาวรุ่งในหมู่แฟนบอลอิตาลีมากยิ่งขึ้น และเป็นที่จับตามองของสโมมสรยักษ์ใหญ่ต่างๆมากมายอีกด้วย

ต่อมาในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 ในฤดูกาล 2021-22 วลาโฮวิช เป็นดาวรุ่งมาแรงที่เนื้อหอมอย่างมากในตลาดนักเตะ โดยเขาเป็นที่ต้องการของทีมยักษ์หลายทีม อาทิ อาร์เซนอล , แอตเลติโก มาดริด , ยูเวนตุส , ทอตนัม ฮอตสเปอร์ เป็นต้น แต่ในช่วงต้นฤดูกาล เขายังคงลงหลักปักฐานอยู่กับ ฟิออเรนติน่า และมุ่งมั่นในการเล่นให้ทีมอย่างต่อเนื่อง และทำประตูให้กับทีมไปถึง 17 ประตู จากการลงเล่นใน 21 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก จึงทำให้เขาเป็นที่ต้องการของสโมสรต่างๆมากยิ่งขึ้นไปด้วย
จนกระทั่งในช่วงเดือนมกราคม ปี 2022 ในฤดูกาล 2021-22 ช่วงตลาดนักเตะหน้าหนาว เขาได้ทำการตัดสินใจ ที่เรียกได้ว่าเป้นที่น่าตกใจผู้บริหารของ สโมสรฟิออเรนติน่า อย่างมาก เนื่องจากเขาตัดสินใจย้ายไปยัง สโมสรยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่ใน กัลโซ่ เซเรียอา เช่นกัน ซึ่งทั้งสองเคยมีความหลังที่ไม่น่าจดจำ ในเรื่องการชิงตัวนักเตะดาวรุ่งกันอยู่แล้วด้วย

ซึ่งเขาได้เปิดตัวที่ ยูเวนตุส ในฐานะแข้งคนใหม่ในวันที่ 28 มกราคม 2022 ซึ่งตรงกับวันเกิดอายุ 22 ปีของเขาพอดี โดยเขาได้รับของขวัญต้อนรับจากผู้บริการของ ทัพม้าลายแห่งตูริน นั่นก็คือ เสื้อหมายเลข 7 ซึ่งเป็นหมายเลขเดิมของ นักเตะซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายไปค้าแข้งยังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกด้วย โดยเขาเซ็นสัญญาระยะยาว 4 ปี โดย ยูเวนตุส ควักกระเป๋าจ่ายค่าตัวเขาไปกว่า 70 ล้านยูโร หรือราวๆ 2,560 ล้านบาท และโบนัสเพิ่มเติมตามผงานอีกกว่า 10 ล้านยูโร หรือราวๆ 366 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งเป็นที่ฮือฮาในวงการลูกหนังอิตาลีอย่างมาก

โดยเขายังสร้างความฮือฮาไม่หยุด โดยการลงสนามในนัดแรกในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นัดที่ลงแข่งขันกับ บิยาร์เรอัล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเขาได้ทำลายสถิติขึ้นเป็น นักเตะหน้าใหม่ที่ทำประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดย วลาโฮวิช สามารถพังตาข่ายของคู่แข่งไปได้ในเวลาเพียงแค่ 32 วินาทีเท่านั้น โดยจนถึงปลายเดือน เมษายน 2022 นี้ เขาลงสนามให้กับ ยูเวนตุสไปแล้ว 6 นัด และทำประตูไปได้แล้วถึง 4 ประตูด้วยกัน นับว่า ดูซาน วลาโฮวิช เป็นนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองอย่างมาก

ดูซาน วลาโฮวิช กับรางวัลและเกียรติประวัติ
สโมสรปาร์ติซาน เบลเกรด
• แชมป์รายการ เซอร์เบียนซุปเปอร์ลีกา ในฤดูกาล 2016-17
• แชมป์รายการ เซอร์เบียน คัพ 2 สมัย ได้แก่ ในฤดูกาล 2015–16 และ 2016–17
รางวัลส่วนตัว
• นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่ง กัลโซ่ เซเรียอา ประจำฤดูกาล 2020-21
