ดาบิด เด เคอา มือกาวพรสรรค์ที่ เซอร์อเล็กซ์ ไว้ใจ

MANCHESTER, ENGLAND – MARCH 12: David De Gea of Manchester United looks on during the Premier League match between Manchester United and Tottenham Hotspur at Old Trafford on March 12, 2022 in Manchester, England. (Photo by Naomi Baker/Getty Images)

ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูจอมเก๋าของ ทัพปีศาจแดง ผู้ที่เปรียบเสมือนสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน ได้ทิ้งไว้ให้กับ โรงละครแห่งความฝัน ก่อนที่เขาจะปลดเกษียณไป เด เคอา เซฟประตูช่วยต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ไว้อย่างมากมาย แม้ผลงานโดยรวมของทีมจะไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ถึงขนาดที่มีคนกล่าวเอาไว้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวมาไกลในฤดูกาล 2021-22 นี้ได้ เพราะการเซฟประตูของ ดาบิด เด เคอา

การก้าวสู่วงการลูกหนังของ ดาบิด เด เคอา

ดาบิด เด เคอา หรือชื่อดั่งเดิมของเขา คือ ดาบิด เด เคอา กินตาน่า (David de Gea Quintana) เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 1990 ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน เขามีความฝันในวัยเด็กว่า อยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ และก็ได้ก้าวตามความฝันของเขาในทันที โดยเขาได้เริ่มเข้าสู่วงการลูกหนังในวัยเพียง 6 ขวบเท่านั้น และเริ่มเล่นฟุตบอลด้วยตำแหน่งกองหน้ามาก่อน ไม่ใช่ผู้รักษาประตูมาตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องด้วยรูปร่างของเขาที่สูงมาก ตัวใหญ่ สามารถรับลูกกลางอากาศได้ดี ผู้ฝึกสอนจึงเริ่มฝึกให้เขา เข้าสู่วงการลูกหนังด้วยการเล่นในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งในปัจจุบันนี้ เขาได้ชื่อว่าเป็นผู้รักษาประตู ที่ใช้เท้าในการเซฟบอลดี ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ การได้เริ่มเล่นด้วยตำแหน่งกองหน้ามาก่อนในวัยเด็ก จึงทำให้เขาคุ้นชินกับการเล่นบอลด้วยเท้าด้วยนั่นเอง

เริ่มต้นจากลีกบ้านเกิด กับ สโมสรแอตเลติโก มาดริด

ในปี 2003 ดาบิด เด เคอา ในวัย 13 ปี ได้เริ่มเข้าสู่ทีมเยาวชนของ สโมสรแอตเลติโก มาดริด ด้วยการเริ่มเล่นในตำแหน่งกองหน้า เหมือนในช่วงวัยเด็กของเขา จนกระทั่งในปี 2006 เขาได้ย้ายไปเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู และนี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพมือกาวจอมเก๋าของเขานั่นเอง โดยเขาเริ่มต้นการเล่นเป็นผู้รักษาประตู ด้วยการมี จานลุยจิ บุฟฟอน สุดยอดมือกาวของทีมชาติอิตาลี เป็นต้นแบบ เขาได้ฝึกฝนการเป็นผู้รักษาประตู ด้วยการใช้ทักษะการเล่นในตำแหน่งกองหน้าเข้ามาผสมผสานกัน ซึ่งทำให้เขาอ่านจังหวะในการยิงประตูของคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี บวกกับความว่องไวของเขา จึงทำให้เขาสามารถทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมได้ในเวลาไม่นาน ซึ่งในปี 2008 ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาได้ลงเล่นในฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรก โดยเริ่มเล่นกับทีมเยาวชน แอตเลติโก มาดริด ในดิวิชันบี ในฤดูกาล 2008-09 โดยลงเล่นไปทั้งหมด 35 นัดด้วยกัน

โดยเขาฉายความสามารถที่โดดเด่นของเขาออกมาได้อย่างต่อเนื่อง จนในฤดูกาล 2009-10 ถัดมา เค้าก็ได้ติดทีมชุดใหญ่ในทันที โดยเกมแรกที่เขาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ เขาได้ลงเล่นในฐานะ ผู้รักษาประตูตัวสำรอง ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเขาลงเล่นแทนผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่าง โรเบร์โต ที่ได้รับบาดเจ็บ และได้ลงแทน โรเบร์โต อีกครั้งในศึก ลาลีกา และระเบิดฟอร์มเจ๋ง ช่วยทีมให้เอาชนะคู่ต่อสู้มาได้ในเกมนี้ โดยในเกมทั้ง 2 นัด เขาได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอล ตราหมี เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

MADRID, SPAIN – MARCH 28: David de Gea of Atletico Madrid warms up before the start of the La Liga match between Real Madrid and Atletico Madrid at Estadio Santiago Bernabeu on March 28, 2010 in Madrid, Spain. (Photo by Denis Doyle/Getty Images)

หลังจากนั้น เด เคอา ก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูตัวจริง มือหนึ่ง ให้กับ ตราหมี อย่างต่อเนื่อง และด้วยความกระตือรือร้นไม่หยุดพัฒนาความสามารถของเขา ทำให้เขาสามารถระเบิดฟอร์มที่ยอดเยี่ยมช่วยต้นสังกัดได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งฤดูกาล จนเขาได้รับรางวัล Man of the match ถึง 2 นัดด้วยกัน จากการแข่งขันในศึก ลาลีกา สเปน เท่านั้นยังไม่พอ เขายังเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาครองได้อย่างสำเร็จ ซึ่งในการคว้าแชมป์ในครั้งนั้นนับได้ว่า เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรายการนี้ของ สโมสรแอตเลติโก มาดริด อีกด้วย

ในฤดูกาล 2010-11 ถัดมา ชื่อเสียงของ ดาบิด เด เคอา ก็ได้พุ่งกระฉูดไปไกลเป็นอย่างมาก ถึงความเก่งกาจในการเซฟบอลอย่างมีเอกลักษณ์ของเขา แน่นอนว่ามีหลายทีม หลายสโมสรยักษ์ใหญ่สนใจในตัวเขา โดยเฉพาะทีมหัวตารางในขณะนั้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังมองหามือกาวคนใหม่ไปแทนที่ สุดยอดผู้รักษาประตูของทีมอย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ที่กำลังจะปลดระวางถุงมือหลังจบฤดูกาล 2010-11 แต่ทีมจากเกาะอังกฤษก็พลาดโอกาสไป เนื่องจาก เด เคอา ต้องลงทำการแข่งขันให้กับ ทีมชาติสเปน ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2011 เสียก่อน ซึ่ง เขาก็สามารถเป็นส่วนสำคัญในการพา ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2011 มาได้สำเร็จอีกด้วย

ดาบิด เด เคอา ฮีโร่ของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่ไม่เคยขาดผู้รักษาประตูฝีมือระดับพระกาฬ อาทิ ปีเตอร์ ชไมเคิล , ฟาบียอง บาร์เตซ จนมาถึง เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ สุดยอดผู้รักษาประตู ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่กำลังจะปลดระวางการเป็นผู้รักษาประตูมืออาชีพของเขาลง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งหาผู้เฝ้าเสาคนใหม่มาทำหน้าที่อย่างเร็วที่สุด จนกระทั่ง เอริก สตีล โค้ชผู้รักษาประตูของ ทัพปีศาจแดง ได้เฟ้นหาจนเจอเพชรเม็ดงามที่เมืองกระทิงดุ จนเขานำคลิปวิดีโอของนายประตูดาวรุ่งวัย 19 อย่าง ดาบิด เด เคอา มาเปิดให้ เซอร์ อเล็กซ์ ได้ดู ก็เป็นที่ชอบใจของนายใหญ่แห่ง ทัพปีศาจแดง ในทันที

ทางด้าน เด เคอา ที่ได้รับการทาบทามจาก เซอร์ อเล็กซ์ แต่เนื่องด้วยติดภารกิจช่วย ทีมชาติสเปน ในศึกฟุตบอลยูโร 2011 จึงทำให้เขาไม่สามารถตอบตกลงข้อเสนอ ที่เขาเองก็สนใจในทันทีได้ จนกระทั่ง เขาพา ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรมาได้สำเร็จ เขาจึงตอบตกลงข้อเสนอ ด้วยค่าตัวในขณะนั้นกว่า 17.8 ล้านปอนด์ และจากบ้านเกิดย้ายไปค้าแข่งยังเกาะอังกฤษ ในช่วงฤดูกาล 2011-12 ซึ่ง เด เคอา ได้รับความสนใจจากแฟนบอล และสื่ออังกฤษอย่างมาก

ด้วยความผอม สูง ของเด เคอา ทำให้เขาได้รับคำสบประมาทจากแฟนบอลอังกฤษอย่างมากในช่วงแรก เพราะเขาได้เข้ามาทำหน้าที่แทน ผู้รักษาประตูฝีมือระดับโลกอย่าง ฟาน เดอ ซาร์ จึงเป็นที่น่ากังขาอย่างมากของแฟนบอลว่าเขาจะทำหน้าที่นี้แทน ตำนานมือกาวของ ทัพปีศาจแดง ได้หรือไม่ ด้านเซอร์ อเล็กซ์ ก็เช่นเดียวกัน เขาโดนแฟนบอลหลายฝ่ายตำหนิอย่างหนัก เพราะ เด เคอา ถือเป็นผู้รักษาประตูที่อายุน้อย หน้าใหม่ และมีรูปร่างผอมบางเกินกว่าจะรับแรงปะทะได้ และ หลายฝ่ายมองว่า เซอร์ อเล็กซ์ มีตัวเลือกชั้นยอดอีกมากมายที่จะมาแทนที่ ฟาน เดอ ซาร์ แต่เขากลับเลือก เด เคอา มาทำหน้าที่แทน

ในช่วงแรกของการมารับหน้าที่ ผู้รักษาประตูที่เกาะอังกฤษของ เด เคอา เขาทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ทั้งด้วยเรื่องของภาษา อาหารการกิน สภาพแวดล้อมใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และยิ่งในยุคนั้น ทั้งเกมรับ เกมรุก ของ ทัพปีศาจแดง ถือว่าทุกฝ่ายแสดงผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ถือว่าทีมมีจุดแข็งในทุกๆด้าน ยกเว้นผู้รักษาประตู ที่ผลงานยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ แต่ทว่า เซอร์ อเล็กซ์ ก็ยังคงให้เขาทำหน้าที่นี้ต่อไป ท่ามกลางเสียงบ่นก่นด่าของแฟนบอลอย่างมากมาย

ซึ่ง เด เคอา ก็ไม่พอใจกับคำสบประมาทนี้เท่าไหร่นัก และด้วยความที่เขาไม่เคยหยุดพัฒนา และด้วยพรสวรรค์ที่เขามี เขาทำให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจไม่เคยผิดพลาด และกำลังหล่อหลอมเหล็กกล้าขึ้นมาอย่างช้าๆ ทั้งการฝึกฝนอย่างเคี่ยวเข็ญ ทั้งการส่งไปพัฒนาทางด้านร่างกายให้กำยำยิ่งขึ้น ทั้งการให้ลงสนามเจอกับประสบการณ์จริงจนในที่สุด เขาใช้เวลาในการปรับตัวด้วยระยะเวลาเพียงไม่นาน ดาบิด เด เคอา ก็ได้แสดงศักยภาพภายในตัวของเขาออกมาให้แฟนบอลทั้งเกาะอังกฤษได้เห็นว่าเขาทำได้ จนเปลี่ยนจากคำด่าเป็นคำชื่นชมไม่ขาดสายในที่สุด

TURIN, ITALY – FEBRUARY 18: David De Gea of Manchester United during the warm up prior to the UEFA Europa League Round of 32 match between Real Sociedad and Manchester United at Allianz Stadium on February 18, 2021 in Turin, Italy. (Photo by Jonathan Moscrop/Getty Images)

ซึ่งในฤดูกาล 2012-13 เด เคอา ได้ทำหน้าที่ผู้รักษาประตูให้กับ ทัพปีศาจแดง และเขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012-13 มาครองได้อย่างสำเร็จ ซึ่งในครั้งนั้นเป็น แชมป์พรีเมียร์ลีก สุดท้ายของการคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ได้ประกาศอำลาการทำหน้าที่ผู้จัดการที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยาวนานกว่า 27 ปีลงไปอีกด้วย และหลังจากหมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผลงานของ ทัพปีศาจแดง ก็ได้ถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ในฤดูกาลแรกที่เขาวางมือลงไปเลยทีเดียว และไม่ว่าจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปอีกหลายต่อหลายคนยังไง ผลงานของทีมก็ไม่ได้ดีขึ้นตามไปด้วยแม้แต่น้อย กลับตกต่ำ และลุ่มๆดอนๆเรื่อยมาจนถึงฤดูกาล 2021-22 ฤดูกาลปัจจุบัน ทัพปีศาจแดง ก็เป็นทีมที่ไร้แชมป์มายาวนานกว่า 5 ฤดูกาลแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ผลงานของทีมจะตกต่ำไปแค่ไหน แต่ฝีมือให้การเซฟประตูของผู้รักษาประตูอย่าง ดาบิด เด เคอา ก็ไม่ได้ถดถอยลงตามฟอร์มของทีมเลย เขากลับยิ่งพัฒนามันอยู่เสมอ และเขาก็เป็นส่วนสำคัญอย่างมาก ที่ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูให้กับทีมคู่แข่งไว้อย่างมากมาย ฝีมือการเซฟลูกที่ไม่ธรรมดาของเขา เขาเซฟได้ทั้งมือและเท้า ซึ่งในหลายๆครั้งเขาได้เซฟประตูไว้ได้อย่างน่าทึ่ง จึงทำให้ เด เคอา ได้ขึ้นแท่นสู่ผู้รักษาประตูระดับโลกแล้วในขณะนี้ และแน่นอนที่สุดว่า เขาคือ ฮีโร่ ของแฟนบอลเรดอาร์มี่ และเป็นหนึ่งในความหวังที่จะช่วยให้สโมสรแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหนึ่ง

MANCHESTER, ENGLAND – DECEMBER 12: David de Gea of Manchester United in action during the Premier League match between Manchester United and Manchester City at Old Trafford on December 12, 2020 in Manchester, England. The match will be played without fans, behind closed doors as a Covid-19 precaution. (Photo by Matthew Peters/Manchester United via Getty Images)

ผลงาน รางวัล และ เกียรติประวัติ ของ ดาบิด เด เคอา

เกียรติประวัติ

สโมสร แอตเลติโก มาดริด

• แชมป์รายการ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2009–10
• แชมป์รายการ ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ ในปี 2010

สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

• แชมป์รายการ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13
• แชมป์รายการ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2015–16
• แชมป์รายการ อีเอฟแอล คัพ หรือ ลีก คัพ ฤดูกาล 2016–17 (ปัจจุบันเรียกว่า คาราบาว คัพ)
• แชมป์รายการ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชีลด์ ในปี 2011, ปี 2013 และ ปี 2016
• แชมป์รายการ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2016–17

ทีมชาติสเปน ในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี

• แชมป์รายการ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (UEFA European Championship , U-17) ในปี 2007

ทีมชาติสเปน ในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี

• แชมป์รายการ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี (UEFA European Championship , U-21) ในปี 2011 และ ปี 2013

MANCHESTER, ENGLAND – MAY 13: David De Gea of Manchester United pose for a photo with his Premier League Golden Glove Award prior to the Premier League match between Manchester United and Watford at Old Trafford on May 13, 2018 in Manchester, England. (Photo by Matthew Lewis/Getty Images)

รางวัลส่วนตัว

• ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมฟุตบอลอาชีพ (PFA Team of the Year)
โดย ดาบิด เด เคอา ได้รับรางวัล นักเตะประจำทีมพรีเมียร์ลีกแห่งปี ประจำฤดูกาล 2012–13 , ประจำฤดูกาล 2014–15 , ประจำฤดูกาล 2015-16 , ประจำฤดูกาล 2016-17 , ประจำฤดูกาล 2017-18
• ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน ปี 2014 ของแฟนบอลพรีเมียร์ลีก (รางวัลจากสมาคมฟุตบอลอาชีพ)
• ผู้เล่นแห่งปีเซอร์แมตต์ บัสบี ประจำฤดูกาล 2013–14 , ประจำฤดูกาล 2014–15 , ประจำฤดูกาล 2015–16 , ประจำฤดูกาล 2017–18
• ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ของ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาลที่ 2015–16
• รางวัล save of the season ของ BBC’s Match of the Day ประจำฤดูกาล 2012–13 , ประจำฤดูกาล 2013–14 , ประจำฤดูกาล 2014-15 , ประจำฤดูกาล 2015-16 , ประจำฤดูกาล 2017-18
• ทีมแห่งปีของ EA Sports FIFA ประจำปี 2017 และปี 2018
• รางวัลบาลงดอร์ อันดับที่ 20 ประจำปี 2017
• รางวัล FIFA FIFPro World XI ประจำปี 2018
• รางวัล FIFA FIFPro World XI ประเภท 2nd team ประจำปี 2015
• รางวัล FIFA FIFPro World XI ประเภท 3rd team ประจำปี 2016 และปี 2017
• รางวัลถุงมือทองคำ (Golden Glove) แห่ง พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2017-18
• รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พรีเมียร์ลีก ประจำเดือนมกราคม ปี 2022