
จิโอวานนี่ อเลฮานโดร เรย์น่า (Giovanni Alejandro Reyna) หรือ จิโอวานนี่ เรย์น่า นักเตะดาวรุ่งวัย 19 ปี คลื่นลูกใหม่แห่ง สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ใน บุนเดสลีกา ลีก ลีกสูงสุดของเยอรมนี ซึ่งในปัจจุบันเขาประจำตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกจอมยิงประตูให้กับ ทัพเสือเหลือง
จิโอวานนี่ เรย์น่า เกิดมาในตระกูลนักฟุตบอล โดยทั้งพ่อและแม่ของเขาเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงทั้งคู่ แม่ของเขา ดานีเอล อีเกน เรย์น่า เป็นอดีตนักฟุตบอลหญิง ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในปี 1993 และ เคลาดิโอ เรย์น่า เป็นอดีตมิดฟิลด์คนดังที่เป็นนักฟุตบอล ทีมชาติสหรัฐอเมริกา และเคยค้าแข้งในหลายทีมชั้นนำ ได้แก่ สโมสรเรนเจอส์ , สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ สโมสรซันเดอร์แลนด์
ซึ่งในขณะที่ เคลาดิโอ ค้าแข้งให้กับ ทีมซันเดอร์แลนด์ นั้น ดานีเอล ก็ได้ให้กำเนิด จิโอวานนี่ เรย์น่า ซึ่งเขาเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ในปี 2002 ที่ เมืองซันเดอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ และเมื่อ จิโอวานนี่ เรย์น่า อายุได้ 5 ขวบ พวกเขาจึงได้ย้ายถิ่นฐานกลับไปยัง เมืองเบดฟอร์ด รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2007
เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางลูกหนังใน ทีมอคาเดมีนิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา
หลังจากย้ายไปยังสหรัฐอเมริกา จิโอวานนี่ เรย์น่า ในวัย 13 ปี ก็ได้เริ่มมีความสนอกสนใจในกีฬาฟุตบอล ซึ่งเขาได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากพ่อแม่ของเขา ซึ่งในขณะนั้น เคลาดิโอ ได้ดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการทางด้านกีฬา ของ สโมสรนิวยอร์กซิตี้ เรย์น่า จึงได้เข้าไปเป็นนักเตะฝึกหัดในอคาเดมีของ นิวยอร์กซิตี้ ในปี 2015 ซึ่งเขาก็ได้ฉายแววเลือดนักเตะที่มีในตัว ออกมาพิสูจน์ให้ทุกคนในทีมได้เห็นว่าเขาไม่ได้ใช้เส้นสายในการเติบโต
ในปี 2017 ฤดูกาล 2016-17 ในขณะที่เขาอายุ 14 ปี เขาได้ลงเล่นให้กับ ทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี (U-15) ของ สโมสรนิวยอร์กซิตี้ ในการแข่งขัน Generation Adidas Cup ซึ่งเขาก็ระเบิดฟอร์มออกมาได้ยอดเยี่ยมอย่างมาก โดยเขาทำประตูไปได้ถึง 4 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ ด้วยกัน ช่วยให้ทีมได้แชมป์ในรายการนี้ไปครองได้อย่างสำเร็จ และยังได้รับการโหวตให้ได้รับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมของการแข่งขันในครั้งนั้นด้วย
จนกระทั่งในฤดูกาล 2017-18 ถัดไป เขาจึงได้เลื่อนขั้นสู่ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี (U-18) และรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี (U-19) ตามลำดับ และทำผลงานไว้อย่างน่าประทับใจด้วยการลงเล่นไปทั้งหมด 17 นัด และทำประตูให้กับทีมได้ถึง 13 ประตู ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียง และเนื้อหอมอย่างมาก
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าตัวมาร่วมทัพ
จิโอวานนี่ เรย์น่า ได้ย้ายไปยัง สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมยักษ์ใหญ่ใน บุนเดสลีกา ลีก ลีกสูงสุดของเยอรมัน ในปี 2019 ฤดูกาล 2019-20 ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุ 17 ปี โดยในช่วงแรกเขาได้ลงเล่นให้กับ ทีมเยาวชนของ ทัพเสือเหลือง ในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี (U-19) หลังจากนั้นไม่นาน ในเดือนมกราคม ปี 2020 เขาจึงได้เลื่อนขั้นสู่ทีมชุดใหญ่ ในช่วงพักการแข่งขันหน้าหนาว
จนกระทั่งวันที่ 18 มกราคม ปี 2020 เขาก็ลงเล่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นครั้งแรกกับศึก บุนเดสลีกา ในฐานะตัวสำรอง ทำการแข่งขันกับ สโมสรเอฟซี เอาก์สบวร์ก (FC Augsburg) และเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 5-3 ซึ่งในการแข่งขันครั้งแรกของเขา เขาได้สร้างสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นเป็น นักเตะสัญชาติอเมริกาอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ลงแข่งขันในศึก บุนเดสลีกา ด้วยวัย 17 ปี 66 วัน ซึ่งได้ทำลายสถิติของ คริสเตียน พูลิซิช แข้งรุ่นพี่ชาวอเมริกันซึ่งทำไว้ที่ 17 ปี 156 วันลงไป

หลังจากนั้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 เขาทำประตูเป็นครั้งแรกให้กับต้นสังกัดได้ในศึก เดเอฟเบ-โพคาล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้ 1 ประตู แต่ทีมก็พ่ายแพ้ให้กับ สโมสรเวรเดอร์ เบรเมน 3-2 ไป แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้สร้างสถิติขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยการเป็น นักเตะที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูในศึก เดเอฟเบ-โพคาล ได้อีกด้วย
ต่อด้วยในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปี 2020 เขาได้ลงเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ในนัดที่พบกับ สโมสรปารีสแซงต์-แฌร์แมง โดยเขาสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ที่ได้ลงเล่นในรายการนี้ และสามารถทำแอสซิสต์ให้กับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ขึ้นทำประตู ซึ่งส่งผลให้ เรย์น่า กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่สามารถทำแอสซิสต์ในการแข่งขันรายการนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งสถิติด้วย โดยในฤดูกาลแรกของเขา เขาลงสนามไปทั้งหมด 22 นัด และทำประตูไปได้ 4 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ด้วยกัน

ต่อมาในฤดูกาล 2020-21 เขาสามารถทำประตูในศึก บุนเดสลีกา ได้เป็นครั้งแรกเมื่อ วันที่ 19 กันยายน 2020 ซึ่งเป็นนัดที่เอาชนะ สโมสรโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (Borussia Mönchengladbach) 3-0 และทำสถิติกลายเป็น นักเตะสัญชาติอเมริกันอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่ทำประตูในการแข่งขันรายการนี้ได้ ด้วยวัย 17 ปี 311 วัน รองลงมาจาก คริสเตียน พูลิซิช ที่ทำไว้ 17 ปี 211 วัน

ต่อมาวันที่ 3 ตุลาคม 2020 เรย์น่า ได้ระเบิดฟอร์มเจ๋งอีกครั้งด้วยการ ทำแฮตทริคแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้สำเร็จ โดยส่งให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ 2 ประตู และเอ็มรี ชาน 1 ประตู จนเอาชนะ สโมสรเอสซี ไฟร์บวร์ก (SC Freiburg) ได้ด้วยสกอร์ 4-0 ซึ่งเขาได้สร้างสถิติกลายเป็น นักเตะสัญชาติอเมริกันคนแรกที่สามารถทำ แฮตทริคแอสซิสต์ ได้ในศึก บุนเดสลีกา อีกด้วย ซึ่งเขาสามารถทำประตู และโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อ เรย์น่า อายุได้ 18 ปีบริบูรณ์ ทัพเสือเหลือง รีบทำการเซ็นขยายสัญญากับเขาออกไปจนถึง เดือนมิถุนายน ปี 2025

และก่อนจะสิ้นสุดฤดูกาล 2020-21 ลง เรย์น่า ได้เป็นส่วนสำคัญช่วยทีมให้คว้าแชมป์ในรายการ เดเอฟเบ-โพคาล ปี 2021 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเอาชนะ สโมสรแอร์เบ ไลป์ซิก (RB Leipzig) ไปได้ด้วยสกอร์ 4-1 ซึ่งทำให้เขาสร้างสถิติเป็น นักเตะสัญชาติอเมริกันอายุน้อยที่สุดที่ครองแชมป์ในรายการนี้

ในฤดูกาลถัดมา 2021-22 จากผลงานที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมของ เรย์น่า และการย้ายทีมของ จาดอน ซานโช่ ไปยัง ทัพปีศาจแดง ทำให้สโมสรประกาศมอบเสื้อหมายเลข 7 ที่ ซานโช่ เคยใส่ให้แก่เขา ในเดือนกรกฎาคม 2021 ซึ่งใน เดือน สิงหาคม ถัดไป เขาสร้างสถิติให้เกิดขึ้นได้อีกครั้งด้วยการเป็น นักเตะสัญชาติอเมริกันอายุน้อยที่สุด ที่ลงแข่งขันในศึก บุนเดสลีกา ครบ 50 นัด

ซึ่งเขายังคงทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มมีปัญหาอาการบาดเจ็บมารบกวน จนกระทั่งกลางเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมา เขาได้ลงทำการแข่งขันในศึก บุนเดสลีกา นัดที่พบกับ สโมสรสตุ๊ตการ์ท และได้ลงไปในสนามเพียงแค่ 77 วินาทีเท่านั้น อาการบาดเจ็บที่ขาซ้ายของเขากำเริบจนต้องเปลี่ยนตัวเขาออกจากการแข่งขัน และทางต้นสังกัดได้ประกาศยืนยันว่า เรย์น่า จะสิ้นสุดฤดูกาลนี้ลงที่นัดนี้ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีต่อไป ซึ่งในฤดูกาลนี้ เรย์น่า ได้ลงสนามไปทั้งหมด 13 นัด ทำประตูไปได้ 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์

จิโอวานนี่ เรย์น่า กับการรับใช้ทีมชาติ
จิโอวานนี่ เรย์น่า ได้รับคัดเลือกให้ติด ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ในปี 2016 ในขณะที่เขาอายุได้ 15 ปี โดยลงเล่นให้กับทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี (U-15) ซึ่งสามารถคว้า แชมป์ในรายการ Torneo delle Nazioni มาครองได้ 1 รายการ หลังจากนั้นเขาได้เลื่อนขั้นสู่ใน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และ 17 ปี ตามลำดับ และในเดือนมิถุนายน 2021 เขายิงประตูช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ในรายการ คอนคาเคฟ เนชั่นส์ ลีก 2019-20 (CONCACAF Nations League 2019-20) มาครองได้อีก 1 รายการ

ซึ่งในปี 2020 เขาจะต้องเลือกว่าจะลงทำการแข่งขันให้กับทีมชาติใด เนื่องจากเขามีสัญชาติทั้งหมด 4 สัญชาติ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา , อังกฤษ , อาเจนติน่า และ โปรตุเกส ซึ่ง 2 สัญชาติหลังเขาได้มาจากฝั่งพ่อ โดย เรย์น่า ได้เลือกลงเล่นให้กับ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ตามรอยพ่อและแม่ของเขา และล่าสุดเขาเพิ่งช่วยให้ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา คว้าตั๋วไปแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ที่ ประเทศกาตาร์ ปลายปีนี้ ได้อีกด้วย
